เที่ยวจอร์เจีย (Georgia) ทั้งทีไปเดือนไหนดีนะ
จอร์เจียอีกหนึ่งประเทศที่มีความหลากหลาย บรรยากาศสวยงามจนได้ชื่อว่าเป็นสวิสเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย ด้วยบรรยากาศท่ามกลางหุบเขาคอเคซัส (Caucasus) และทะเลดำ ที่จอร์เจีย (Georgia) สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยมี 4 ฤดูให้สัมผัสอากาศและความสวยงามที่ต่างกันตามความชื่นชอบ
ไปท่องเที่ยวประเทศจอร์เจียช่วงไหน น่าสนใจสุดๆ
1. ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม – พฤษภาคม (10 – 24 องศา)
เหมาะกับการเดินทางชมธรรมชาติ เดินป่า
2. ฤดูร้อน เดือนมิถุนายน – สิงหาคม (16 – 31 องศา)
เหมาะกับการเดินทางเที่ยวชมชายหาด
3. ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน – พฤศจิกายน (4 – 20 องศา)
เหมาะกับการเดินทางชมใบไม้เปลี่ยนสี
4. ฤดูหนาว เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ (อุญหภูมิ ติดลบ -3 องศาขึ้นไป)
เหมาะกับการเดินทางชมความงามตลอดทั้งเมือง
แลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวนิยมไปชมความงาม สัมผัสวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์
1. ทบิลิซิ (Tbilsi) เมืองหลวงแห่งจอร์เจีย (Georgia)
ตั้งบนฝั่งแม่น้ำควีวี (Mtkvari River) เก็บภาพความประทับใจแห่งประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 ทบิลิซินับเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ คุณค่าแห่งความทรงจำ วิถีความเป็นอยู่ท่ามกลางประวัติศาสตร์มากมาย
สถานที่น่าสนใจ
- มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi)
- สะพานเชื่อมรัก (Bridge of Love) คล้องกุญแจแห่งรัก เติมสายใยให้แน่นเหนียวล็อคเกลียวเหนียวแน่นไปยาวนาน
- สวนสาธารณะรีปา (Rike Park)
- ป้อมนาริกาลา (Narikala Fortress) ป้อมปราการเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 4
- เมืองเก่าย่านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมยุโรป
2. เมืองโบราณคาราไก (Gagra)
ชมสถาปัตยกรรมนีโอคลาสิกท่ามกลางธรรมชาติและ ทะเลดำ คาราไกเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมโดยผสมผสานศิลปะ สถาปัตยกรรมโซเวียดและนีโอคลาสิก ได้ความหรูหราและสวยงาม รายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อน
สถานที่น่าสนใจ
- พระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์แห่งจอร์เจีย (Summer Palace) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19
- สวนน้ำ Aqua park
3. เมืองคาซเบกิ (Kazbegi)
ชมเทือกเขาคอเคซัส ทิวทัศน์อันสวยงามของภูเขาคาซเบกิ (Mount Kazbegi) ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์อันงดงาท่ามกลางยอดเขาสูงที่สุดในจอร์เจีย
สถานที่น่าสนใจ
- โบสถ์เกอร์เกติ (Gergeti Trinity Church) โบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 บนยอดเขาคาซเบกิ
- หมู่บ้านเกาเดกาอูรี (Gedekaure)
4. หมู่บ้านมทเคต้า (Mtskheta)
เมืองโบราณตอนกลางของจอร์เจีย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ในอดีตหมู่บ้านนี้เคยเป็นเมืองหลวงของจอร์เจียอีกด้วย ที่นี่จึงเหมาะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งประวัติศาสร์และวัฒนธรรม ชิมอาหารแสนอร่อยแบบคนท้องถิ่นแท้ๆ
สถานที่น่าสนใจ
- มหาวิหารเจวานิติ (Jvari Monastery) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (ยูเนสโก) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 6
- โบสถ์ซัมบา (Samba Church)
- โบสถ์เชลา (Chela Church) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12
5. เมืองอุพลิสชิเค (Uplistsikhe) เมืองถ้ำโบราณ 3,000 ปี
อดีตเคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าและวัฒนธรรมที่สำคัญ เมืองนี้ตั้งอยู่บนหน้าผาหินที่มีถ้ำโถงกว่า 1,500 แห่ง ที่ถูกใช้เป็นที่อยู่อาศัย โบสถ์ โรงละคร ห้องเก็บไวน์ ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของราชสำนักของกษัตริย์จอร์เจีย นอกจากนี้เมืองอุพลิสชิเคยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 2545
นอกจากนี้ยังมีที่ท่องเที่ยวรอให้คุณไปสัมผัสบรรยากาศ ความงดงามอีกเพียบ
- หมู่บ้านจูทา (Juta) หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขาในเทือกเขาคอเคซัส
- ทะเลสาบปาลาสตูส (Palastu) ทะเลสาบน้ำแข็งขนาดใหญ่แห่งเทือกเขาคอเคซัส
- อุทยานแห่งชาติโบราโบรา (Borjomi-Kharaguli National Park) อุทยานที่อุดมสมบูรณ์ ภูเขาต้นไม้และแม่น้ำ
- ฯลฯ
เที่ยวจอร์เจียได้ตลอดทั้งปี ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย โปรแกรมทัวร์จอร์เจียที่พลาดไม่ได้สำหรับการเดินทางสัมผัสธรรมชาติ อากาศ ความสวยงามและความน่ารักของผู้คน โดยเฉพาะอาหารจอร์เจียต้นตำรับแท้ๆ จองทัวร์จอร์เจีย 2024